การตัดสินใจของลีไวล์ กับเหตุการณ์ที่เขามักจะถูกหลายคนเข้าใจในตัวเขาผิด
Posted 2022/09/27 674 0
การตัดสินใจของลีไวล์ ผู้ที่ขึ้นชื่อว่ามีความแข็งแกร่งที่สุดของมวลมนุษย์ชาติ แต่การตัดสินใจของเขามักถูกเข้าใจผิดเสมอ
การตัดสินใจของลีไวล์ การจะเป็นทหารที่ดี และเป็นผู้ได้รับการยอมรับและนับถือ ในการ์ตูนยอดฮิตเรื่อง “ผ่าพิภพไททัน” เต็มไปด้วยช่วงเวลาที่ตัวละครหลักต้องพิสูจน์ตัวเอง ไม่ใช่แค่ทักษะของพวกเขาเท่านั้น การตัดสินใจที่มีความกดดันสูง ในสถานการณ์ที่คุกคามชีวิตนั้นแฝงตัวอยู่ทุกซอกทุกมุม และบางครั้งพวกเขาก็สามารถสร้างหรือทำลายชื่อเสียงของตัวเองได้ ทางเลือกที่ยากที่สุด มักจะตกอยู่ในมือของผู้มีอำนาจสูงสุด ดังนั้นผู้บังคับบัญชาและแม่ทัพ จึงมีชีวิตของลูกทีมอยู่ในมือ และมีการตัดสินใจที่เด็ดขาดในการเดิมพันชีวิต
และก็เช่นเดียวกับผู้นำที่ขื้นชื่อในเรื่องของความแข็งแกร่ง และเก่งกาจที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยระดับหัวกะทิที่เอเรนสังกัดอยู่ แถมขึ้นชื่อเรื่องความเย็นชาและเมินเฉย นั่นก็คือกัปตันลีไวล์ แอคเคอร์แมน ซึ่งเขาก็ต้องผ่านการที่ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ในสถานะการณ์ที่กดดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะสหายที่ผู้บังคับการที่เออร์วิน สมิธไว้ใจมากที่สุด
ซึ่งในซีซั่นที่ 3 ก็มีเหตุการณ์ทำให้ลีไวล์ต้องตัดสินใจเลือก ระหว่างการช่วยชีวิตอาร์มิน อาร์เลิร์ตในวัยเยาว์ หรือเออร์วิน เพื่อนสนิทของเขา เนื่องจากทั้งคู่อยู่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย การตัดสินใจช่วยชีวิตอาร์มินของลีไวล์ ก็ทำให้แฟนการ์ตูนหลายคนต้องขมวดคิ้ว และการกระทำของเขาถูกมองว่าเห็นแก่ตัว เมื่อเขาตัดสินใจปล่อยให้เพื่อนของเขาตาย แทนที่จะเลือกบุคคลที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม เหตุผลของเขานั้น อาจไม่จำเป็นต้องเป็นที่ต้องการของคนอื่นเสมอไป
จากมุมมองเชิงลบ ในการตัดสินใจเลือกของลีไวล์ในการช่วยอาร์มิน แทนที่จะเลือกช่วยเออร์วินนั้น มาจากความคิดของตัวเขาเองที่ว่า เขาพิจารณาแต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนของเขา และเลือกที่จะปล่อยให้เขาอยู่ในความสงบในที่สุด โดยแฟนๆ หลายคนเชื่อว่าเออร์วินเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า สำหรับการอยู่รอด แต่เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เห็นได้ชัดว่าลีวายส์ตัดสินใจ โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย และเป็นหนึ่งในเส้นทางที่เสียสละที่สุด ที่เขาสามารถทำได้
ปัจจัยสามอย่างที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของลีไวล์ แน่นอนว่ามีเออร์วินที่เป็นเหตุผลหลัก ในการช่วยตัดสินใจของเขา แต่อาร์มินและเคนนี่ ก็มีบทบาทในการตัดสินใจเช่นกัน ในตอนแรกลีไวล์ตั้งใจแน่วแน่ ที่จะช่วยชีวิตเออร์วินโดยไม่ต้องคิดและไม่ลังเลเลย แต่ในอาการเพ้อของเออร์วินตอนนั้น ได้ผลักเข็มฉีดยาน้ำไขสันหลังออกจากตัวเขาเอง การกระทำนี้ผลักดันให้ลีไวล์ จำต้องเลือกที่จะช่วยอาร์มินแทน
ก่อนที่เออร์วินจะพุ่งเข้าหาไททัน ที่นำไปสู่อาการบาดเจ็บร้ายแรงของเขาเอง ลีไวล์ได้ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาทำความฝันสำเร็จ เออร์วินไม่แน่ใจ โดยยอมรับว่าเขาไม่มีความหวัง หรือความฝันถ้าหากเขาทำสิ่งนั้นสำเร็จ จากนั้น ลีไวล์ก็จำได้ว่าได้ยินอาร์มิน มิคาสะ และเอเรน พูดคุยกันในคืนก่อนที่พวกเขาจะออกไปนอกกำแพงเป็นครั้งแรก และแววตาแห่งความหวัง และความเชื่อในตัวอาร์มิน ในขณะที่เขาบอกเพื่อนๆ เกี่ยวกับความฝันที่จะได้เห็นทะเลของเขา ปัจจัยที่สามคือคำพูดที่กำลังจะตายของเคนนี่ ที่บอกกับลีไวล์ว่าทุกคนเป็นทาสของบางสิ่ง และการที่บุคคลไม่สามารถปล่อยสิ่งนั้นไปได้ ท้ายที่สุดจะนำไปสู่ความพินาศ
เขามีความคิดที่ผู้อื่นไม่สามารถเข้าถึงได้ และเขาเลือกแล้วว่าจะช่วยใคร จากเป้าหมายและความฝันของทั้งสองคนมาเปรียบเทียบกัน
หลังจากจำเรื่องทั้งหมดนี้ได้ ลีไวล์ก็หวนคิดถึงบทสนทนาที่เขาบอกเออร์วิน ให้เลิกล้มความฝันและตายเพื่อมนุษยชาติ และเออร์วินก็รู้สึกถึงความจริงใจที่มีต่อใจต่อเขา ลีไวล์ตระหนักว่าเพื่อนของเขารู้สึกขอบคุณ กับการตัดสินใจของเขา เพราะตัวของเออร์วินเองก็ไม่สามารถตัดสินใจได้เช่นกัน เออร์วินไม่สามารถปลดปล่อยตัวเอง จากพันธนาการแห่งความฝัน ที่มันไม่มีจุดหมายได้ เขาเลยต้องการให้ลีไวล์ทำเพื่อเขา เพื่อให้เขาได้จากไป
จากเหตุการณ์นี้ มันเหมือนเป็นการบังคับให้ลีไวล์ ต้องประเมินจากความเป็นไปได้ ระหว่างเออร์วินกับอาร์มิน ว่าใครควรที่จะอยู่รอดต่อไป ความฝันจุดหมายของเออร์วิน ทำให้เขารู้สึกผิดหวัง แต่นั่นคือเพื่อนที่คอยเคียงข้างเขามาตลอด ในขณะที่ดวงตาและเสียงที่มีความหวังของอาร์มิน ทำให้เขามีความกระตือรือร้นที่อยากจะช่วย เพราะเขาคิดแล้วว่ามันน่าจะส่งผลดี ต่ออนาคตของมนุษยชาติ
ในขณะที่เออร์วินไม่มีแผน ไม่มีความหวัง และไม่มีวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต แต่อาร์มินก็เต็มไปด้วยศักยภาพและยังคงมีความหวัง สำหรับอนาคตที่สดใสกว่า การเปรียบเทียบโดยตรงระหว่าง ความฝันที่ทำให้เออร์วินหนักใจ กับความหวังของอาร์มิน ที่ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน และดูมีความหวังมากกว่า เป็นปัจจัยในการตัดสินใจที่สำคัญ สำหรับการเลือกของลีไวล์ในครั้งนี้ และดูเหมือนเออร์วิน ก็อยากให้เขาเลือกที่จะช่วยอาร์มิน เช่นเดียวกัน
และด้วยบริบทของคำพูดของเคนนี่ ลีวายส์เข้าใจดีว่าถ้าไม่มีความฝัน เออร์วินจะไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีอะไรที่จะขับเคลื่อนเขาไปข้างหน้า ด้วยความแข็งแกร่งที่แน่วแน่เหมือนเมื่อก่อน และไม่มีอะไรมาช่วยที่เป็นความหวังหรือความฝัน ที่ขะช่วยเขาจากสภาพจิตใจที่เสื่อมโทรม มีความเป็นไปได้สูงมากที่เออร์วิน จะกลับไปเป็นตัวตนเดิมของเขา ในขณะที่เขาเป็นทาสของความฝันที่ดูว่างเปล่า ที่ไม่อาจรับประกันว่า อนาคตเขาจะมีความสำคัญต่อมนุษยชาติหรือไม่
เมื่อคำนึงถึงอิทธิพลของคำพูดและความคิดเหล่านี้ เป็นที่ชัดเจนว่าการเลือกของลีไวล์ ก็ไม่ได้มีความเห็นแก่ตัว หรือไร้ความคิดต่อมนุษยชาติ ในทางกลับกัน การตัดสินใจของเขา เป็นการเสียสละอย่างสมบูรณ์แบบในระดับบุคคล เออร์วินเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทที่สุดของเขา ที่เปรียบเสมือนไฟนำทางในชีวิตเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการปล่อยให้เขาตาย ก็จะทำให้รู้สึกเสียใจและโทษตัวเองไปตลอดชีวิต เขาไม่ต้องการให้เออร์วินตาย หรือเสียเพื่อนไป แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับเขา กลับถูกบีบบังคับให้ต้องเลือก
สิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนตัวละครของลีไวล์ คือการช่วยชีวิตสหายของเขา และทำให้แน่ใจว่าการตายที่เกิดขึ้นนั้นไม่ไร้ความหมาย และเออร์วินได้ทำให้เขารู้ถึงผลลัพธ์ที่ดี ในการทำเช่นนี้ เขาแสดงให้ลีไวล์ใช้กำลังของเขาเพื่อช่วยผู้อื่นให้รอด และให้ชีวิตใหม่แก่เขา ดังนั้นในการปล่อยให้เออร์วินจากไป เขาก็ละทิ้งความรู้สึกถึงจุดมุ่งหมาย แรงผลักดัน และความสำเร็จของเขาเอง ที่จะแสดงให้เขาเห็นถึงวิธีการทำสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา ในความพยายามที่มองข้ามความรู้สึกส่วนตัวจากเออร์วิน ซึ่งเป็นการกระทำที่เสียสละที่สุด ที่เขาสามารถทำได้
แต่ในเรื่องของการต่อสู้ และความโดดเด่นในทักษะ ซึ่งลีไวล์เป็นคนตัวเล็ก แต่มีความแข็งแกร่งมากๆ กล่าวกันว่าเขาเป็นทหารที่แข็งแกร่งที่สุด ของมวลมนุษย์ชาติ ในอดีตเป็นนักเลงเมืองใต้ดินมีพรรคพวกอยู่สองคนคือ ฟาร์ลัน เชิร์ธ และอิซาเบล แม็คโนเลีย แต่ถูกไททันฆ่าตายหมด ด้วยความเคียดแค้นทำให้พลังแฝงในตัวนั้นได้ตื่นขึ้น และได้เข้ามาอยู่กับกับหน่วยสำรวจ ถึงแม้ภายนอกดูเย็นชา กวนประสาท แต่ในช่วงเวลาคับขัน เขาถือเป็นสติของทีม มีไหวพริบและทักษะการต่อสู้เป็นเลิศ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ www.anime-nakama.com