ความเหมือนที่แตกต่าง เบจิต้าและซาสึเกะ สองตัวละครที่มีเรื่องราวชีวิตใกล้เคียงกัน

Posted 2022/08/15 601 0

ความเหมือนที่แตกต่าง เบจิต้าจากเรื่องดราก้อนบอล และซาสึเกะจากเรื่องนารูโตะ สองคนนี้มีอะไรที่เหมือนกันมาก ทั้งนิสัยและเรื่องราวในชีวิต

ความเหมือนที่แตกต่าง ถ้าหากว่าท่านเคยอ่านหรือดู การ์ตูนดราก้อนบอล และนารูโตะ ก็น่าจะสังเกตเห็นความคล้ายคลึงกันมากมาย ระหว่างทั้งสองซีรีส์ นอกเหนือจากฉากต่อสู้ที่สนุกสนานแล้ว อนิเมะทั้งสองเรื่องยังมีความคล้ายคลึงกัน ในตัวละครหลักแต่ไม่ใช่ตัวเอกของเรื่อง ซึ่งรับบทโชเน็นแบบคลาสสิกของคู่ต่อสู้ของตัวเอก มากกว่าที่จะเป็นแค่คนขวางทางตัวเอก แต่เบจิต้าและซาสึเกะยังมีความเหมือนกัน ในการสร้างความสัมพันธ์ต่อผู้อื่น และการแสดงอารมณ์อีกด้วย

ในฐานะที่ตัวละครทั้งสองนั้น เป็นทายาทของผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เบจิต้าและซาสึเกะมีความรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ต้องเสี่ยงภัยและฝึกฝนารต่อสู้ ในฐานนะผู้สืบทอด และค่านิยมจากที่ที่เขาอยู่ เนื่องจากอารมณ์และความรัก ไม่เคยมีความสำคัญเท่ากับ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ ตัวละครทั้งสองนี้จึงเชื่อว่า ความคิดที่ไม่สนโลกและไม่แยแสของพวกเขานั้น มีความสมเหตุสมผล

แต่ก็การเปลี่ยนแปลงในด้านอารมณ์ และความรู้สึก รวมทั้งความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็เริ่มค่อยเป็นค่อยไปเมื่อเวลาผ่านไป แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถรับรู้ด้านที่นุ่มนวล ที่เบจิต้าและซาสึเกะซ่อนไว้ ถ้าฟังดูเหมือน ซึนเดเระ (ใช้เรียกบุคลิกที่แรกเริ่มเดิมทีดูไม่เป็นมิตร, ดูเย็นชา หรือฉุนเฉียวง่าย แต่มาภายหลังหรือลึกๆ แล้วอ่อนไหวหรืออ่อนหวาน) นั่นก็เพราะว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว นั่นคือสิ่งที่ตัวละครทั้งสองเป็น

ในบรรดาอนิเมะทั้งหมดที่มีอยู่ ตัวละครที่มีนิสัยแบบซึนเดเระ ก็จะอยู่ในการ์ตูนที่ได้รับความนิยม พื้นฐานของต้นแบบตัวละครนี้ คือการปกปิดความภาคภูมิใจ และการเก็บอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งเหมาะกับทั้งเบจิต้าและซาสึเกะอย่างมาก อีกทั้งยังเหมาะกับบุคลิกของพวกเขาด้วย การต่อต้านความรักและความเสน่หา ที่เป็นเครื่องหมายของซึนเดเระนั้น เข้ากันได้ดีกับตัวละครทั้งสอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เบจิต้าและซาสึเกะ จะเป็นตัวละครแบบซึนเดเระ

ซึ่งเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ และแสดงความเห็นแบบถากถางดูถูก และไม่มีอารมณ์แปรปรวน ที่มักจะรั่วไหลออกมาจากซึนเดเระ พวกเขาดูสงบและมีโลกส่วนตัวสูงมาก แต่ก็ยังต้องดิ้นรนต่อสู้กับใครก็ตาม ที่พวกเขาไม่สามารถไว้ใจได้ และไม่ได้มีความใกล้ชิดอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคุณลักษณะที่เบจิต้าและซาสึเกะมี แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของทั้งสอง ในตอนสุดท้ายจะแตกต่างกัน

มาดูเรื่องราวชีวิตของทั้งสองตัวละครกันบ้าง ว่าจะมีความเหมือนกันมากแค่ไหน ทั้งในเรื่องของนิสัยและการใช้ชีวิต

เรามาเริ่มกันด้วยตัวละครเบจิต้า ที่ถือกำเนิดขึ้นในฐานะลูกชายของ ไซย่าคิง ซึ่งถือว่าเป็นดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล เมื่อมองขึ้นไปที่พ่อของเขา เบจิต้าก็ไม่สามารถอธิบายความรู้สึก ที่เขารู้สึกเหมือนอยู่บ้านได้ เนื่องจากวัฒนธรรมที่แปลก เขาถูกสอนให้เป็นนักรบที่ไร้ความปราณี ตั้งแต่อายุยังน้อย น่าเศร้าที่ดาวของเขา และประชาชนบนดาวถูกทำลายล้างแทบหมดสิ้น เบจิต้าจึงรู้สึกขมขื่นและเต็มไปด้วยความโกรธ แม้ว่าเขาจะรักษาท่าทางสง่าของเขา ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

หลังจากการถูกทำลายดาว และการล้มตายของชาวไซย่า เขาก็กลายเป็นบุคคลที่เห็นแก่ตัว และโหดร้าย อาจจะมีความสำนึกผิดเล็กน้อยต่อการกระทำของเขา แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็เปิดเผยว่า เขาสามารถเป็นมากกว่านักรบได้ ถ้าไม่ใช่เพราะอิทธิพลรอบตัวเขา ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าจะพัฒนาได้ ที่มากจากอิทธิพลของนักรบที่เก่งกาจที่สุดในโลก ก่อนที่เขาจะมาอยู่บนโลก เบจิต้าเชื่อว่าความผูกพันและอารมณ์ ไม่มีความหมายสำรับเขา

แต่พอเขามาอยู่บนโลก และได้อาศัยอยู่กับพวกของโกคู ซึ่งตลอดระยะเวลาของการเดินเนินเรื่องในดารก้อนบอล เขาก็เริ่มมีเมตตาต่อสิ่งที่เรียกว่าศัตรู และค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์เชิงบวกกับคนรอบข้างมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของเขานั้นละเอียดอ่อน และสังเกตเห็นได้เฉพาะบางคนเท่านั้น แต่เบจิต้าก็ค่อยๆ เริ่มแสดงด้านที่นุ่มนวลขึ้น เมื่อคนรอบกาย เริ่มสร้างความสัมพันธ์ต่อเขาบนโลก โดยเฉพาะบลูม่า และทรั้งค์ เมื่อเบจิต้าตระหนักดีว่าครอบครัวของเขา มีความสำคัญต่อเขาเพียงใด เขาก็ละทิ้งแนวโน้มที่ไร้ความปรานี และแสดงด้านที่มีน้ำใจและความรักใคร่มากขึ้น

มาดูทางด้านของซาสึเกะ ที่มีความเหมือนกันตั้งแต่การถือกำเนิด ซึ่งเขาเกิดในตระกูลอุจิวะที่นับถือ และถึงแม้พวกเขาจะไม่มีอำนาจถึงขึ้นเป็นเจ้าของโลก แต่ พวกเขาได้รับความเคารพและเกรงกลัว ในฐานะหนึ่งในตระกูลนินจาที่ทรงพลังที่สุด ในฐานะลูกชายของผู้นำอุจิวะฟุงาคุ และน้องชายของอุจิวะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคืออิทาจิ ซาสึเกะได้รับการสอนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือความสำเร็จในฐานะนินจา

ความปรารถนาของเขา ที่จะแข็งแกร่งที่สุดนั้นหมดสิ้นไป หลังจากที่บรรดาพี่ชายของเขาถูกสังหารทั้งตระกูล ปล่อยให้ซาสึเกะมีชีวิตอยู่พร้อมกับสัญญาว่า เขาจะต่อสู้จนตายเมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น ตั้งแต่วัยเด็กที่เจ็บปวดของเขาเป็นต้นมา ซาสึเกะมีเป้าหมายที่จะฆ่าอิทาจิ และค่อยๆ แยกตัวออกจากคนอื่น เพื่อใช้ความเกลียดชังของเขา แม้ว่าเขาจะมีความห่วงใยและมีเกียรติ แต่ซาสึเกะก็ปกปิดอารมณ์ที่เปราะบางของเขา ด้วยทัศนคติที่เยือกเย็นและดูก้าวร้าว

ด้วยความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากนารูโตะ เพื่อนสนิทของเขา ในที่สุดซาสึเกะก็บรรลุสิ่งที่เรียกว่ามิตรภาพ และพ้นจากความเกลียดชังของเขา เขายังคงวิตกกังวล ในการแสดงด้านที่อ่อนโยนของเขา แต่มีเพียงไม่กี่คนที่เขาเลือกที่จะเปิดเผยด้านนี้ ซาสึเกะผู้กล้าหาญซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ความเกลียดชังอยู่เสมอ นารูโตะเป็นคนแรกที่มีความเข้าใจในตัวเขา และก็อีกคนที่ไม่เคยหยุดรักเขา ก็คือซากุระ จึงกลายเป็นคนต่อไปที่ได้เห็นด้านที่อ่อนโยนของซาสึเกะ ขณะที่พวกเขาเลี้ยงดูซาราดะ อุจิวะ ลูกสาวของพวกเขา

ทั้งเบจิต้าและซาสึเกะมีเหตุผลหลายอย่าง ที่จะยึดมั่นในสิ่งที่ถูกปลูกฝัง และอดีตที่ขมขื่นของพวกเขา และไม่สนใจผู้อื่นเลย แต่ต่างจากแอนตี้ฮีโร่/วายร้าย คนอื่นๆ พวกเขายังคงสัมผัสความเป็นมนุษย์ ที่ซ่อนอยู่ลึกลงไปในจิตใจ ที่เยือกเย็นของพวกเขา ไม่กี่คนที่ดึงด้านที่นุ่มนวลออกมาเปิดเผยว่า นอกเหนือจากการเป็นตัวละครที่ไม่แยแสผู้อื่นนั้น สองคนนี้ยังเป็นฮิเนเดเรแบบคลาสสิกอีกด้วย

แม้ว่าการดำเนินเรื่องของตัวละครทั้งสอง จะแตกต่างออกไปในตอนท้ายๆ โดยที่เบจิต้าเปลี่ยนจากวายร้ายเป็นฮีโร่ และซาสึเกะจากฮีโร่มาเป็นตัวร้าย แต่สิ่งที่พวกเขาเหมือนกันก็คือ คุณสมบัติหลักที่พวกเขาทั้งสองมีร่วมกันคือ ในการเปิดเผยอารมณ์ในด้านที่อ่อนไหวและอ่อนหวาน อีกทั้งเรียนรู้ที่จะมีความรัก และความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้าง www.anime-nakama.com