ทฤษฎีวันพีช ไคโดอาจจะกลับมา เป็นพันธมิตรกับลูฟี่หรือไม่?
Posted 2022/11/01 615 0
ทฤษฎีวันพีช จะเป็นไปได้หรือไม่ โอกาสที่ไคโดอาจกลับเข้ามาในเรื่องราวต่อจากนี้ เพื่อช่วยลูฟี่ในสงครามครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น
ทฤษฎีวันพีช เมื่อต้นปีนี้ได้จบบทสรุปส่วนเนื้อเรื่อง ของเมืองวาโนะ ที่ใช้เวลาหลายปีภายในเนื้อเรื่อง หลังจากใช้เวลานานในโครงเรื่องนั้น ซีรีส์ก็สามารถเปลี่ยนผ่าน ไปสู่ภาคหลักต่อไปได้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นจุดเริ่มต้น และใกล้จะถึงจุดจบของซีรีส์ ที่หลายคนรอคอยมานาน ที่น่าสนใจคือเมื่อตอนภาคของวาโนะได้สร้างแนวคิดที่แตกต่างกันมากมาย ซึ่งบางส่วนยังค่อนข้างเปิดกว้าง บางทีสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ไคโด ศัตรูตัวฉกาจของภาควาโนะ
ซึ่งมีหลายฉากที่ได้เล่าถึง ความเป็นมาของตัวละครไคโด และมีสิ่งที่หลายคนมองเห็นว่า เขาอยากเป็นใหญ่แค่ในพื้นที่ของวาโนะเท่านั้น หรือว่าเขากำลังหนีจากตวามจริงบางอย่าง อย่างเช่นกรณีที่เขาจะต้องเจอกับบิ้กมัม เป็นการยากที่รู้ถึงจิตใจและความคิดของไคโด และไม่อาจจะระบุสิ่งที่เขากระตุ้นความทะเยอทะยานของไคโดจริงๆ ว่าเขาต้องการอะไร อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนงำมากมายกระจายไปทั่ววาโนะ ที่บ่งบอกว่าไคโด อาจมีเป้าหมายที่สูงกว่าตอนนี้
แม้ว่าเรื่องราวเบื้องหลังของไคโด ส่วนใหญ่ยังไม่เป็นที่กระจ่างมากนัก เพราะในเนื้อเรื่องมีตัวละครที่เพิ่มขึ้น และรายละเอียดที่หลากหลาย แต่การจู่โจมที่โอนิกาชิมะ ก็จบลงด้วยการเปิดเผยรายละเอียดสำคัญบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์ของเขากับคิง มือขวาของลูกเรือ และผู้ใต้บังคับบัญชาที่น่าเชื่อถือที่สุดของเขา จากการเปิดเผยอดีตที่พวกเขามีร่วมกัน แรงจูงใจของไคโดที่จะมีเป้าหมายที่กว้างขึ้น ก็ชัดเจนขึ้นเล็กน้อย
ไคโดและคิงพบกัน ที่ห้องทดลองของรัฐบาลโลก ซึ่งใช้ทั้งคู่เป็นตัวทดลอง ขณะที่ไคโดกำลังออกจากโรงงาน เขาได้พบกับชาวจันทราชื่อ อาร์เบอร์ ซึ่งถูกมัดไว้กับเก้าอี้ เมื่อตระหนักถึงความแข็งแกร่งที่เขามี ไคโดจึงเสนอให้ปล่อยคิง และเมื่อคิงถามว่า ไคโดสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้หรือไม่ เขาก็ตอบกลับโดยบอกว่า เขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ เมื่อพวกเขาหนีออกจากสถานที่นี้ด้วยกัน ไคโดจึงตั้งชื่อเขาว่าคิง และบอกว่าเขาจะเป็นผู้บังคับบัญชา อันดับสอง โดยสัญญาว่า จะไม่มีวันหักหลังเพื่อนของเขา
ในเหตุการณ์ย้อนหลังครั้งหนึ่ง มีการเปิดเผยว่า คิงได้กับบอกไคโดว่า เขาเชื่อว่าเขาเป็นจอยบอย ซึ่งแม้แต่ไคโดก็รู้สึกน่าประหลาดใจ โลกที่ไคโดพยายามสร้างนั้น ดูขัดกับสิ่งที่จอยบอยหวังจะสร้างขึ้น แม้ว่าคิงเชื่อว่าในฐานะชายผู้ปลดปล่อยเขา จากการถูกจองจำ ไคโดก็ใกล้เคียงที่สุดที่จะเป็นบุคคลในตำนาน เมื่อมองย้อนกลับไป ถึงสิ่งที่ทราบเกี่ยวกับจอยบอย มันสมเหตุสมผลแล้วว่า ทำไมคิงถึงเชื่อมั่นในกัปตันของเขามาก ที่เกินกว่าจะเป็นหนี้ชีวิตของเขา
ซึ่งจอยบอยควรจะเป็นคนที่ยิ้มได้ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด และยากที่สุด ผู้ซึ่งปลดปล่อยผู้คน และนำรอยยิ้มมาสู่ทุกคน และผู้ที่ถูกกำหนดให้มาถึงวาโนะ ในบางครั้ง ถึงแม้จะดูแปลก แต่ไคโดทำสิ่งนี้ด้วยวิธีของเขาเอง ตลอดการต่อสู้ส่วนใหญ่ที่ไคโดมีส่วนร่วม คิงได้ก็เห็นเขายิ้มเหมือนกับที่จอยบอยอย่างที่คิดไว้ เขายิ้มมากระหว่างการต่อสู้กับลูฟี่ และก่อตั้งกลุ่มโจรสลัดที่ชอบปาร์ตี้ นอกจากนี้ เขายังได้ช่วยปลดปล่อยคิงจากรัฐบาลโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาสร้างดินแดนวาโนะ เป็นอาณาเขตหลักของเขา
ไคโดยังนำรอยยิ้มมากมายมาสู่ผู้คน แม้ว่าจะไม่ใช่ในทางที่ดี หรือการเป็นวีรบุรุษก็ตาม
การจู่โจมที่โอนิกาชิมะพิสูจน์ให้เห็นว่า ไคโดชอบทำให้คนของเขามีความสุข และทำให้แน่ใจว่า พวกเขามีทุกอย่างที่ต้องการในวาโนะ แม้ว่าชาวพื้นเมืองจะต้องทนทุกข์ทรมาน จากผลที่ตามมาก็ตาม จากนั้นมีผลไม้ปีศาจเทียม ที่มีโอกาส 10% ที่จะให้พลังของสัตว์แก่ใครก็ตามที่กิน อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มีโอกาส 90% ที่จะมีผลกับใครก็ตามที่กินอย่างถาวร ที่มีอาการยิ้มและหัวเราะ อย่างควบคุมไม่ได้ไปตลอดชีวิต เขาและโอโรจิยังมอบพวกมัน ให้กับผู้คนที่หิวโหยของวาโนะ ด้วยเรื่องตลกที่โหดร้าย
ด้วยวิธีการเหล่านี้ ไคโดจึงเข้ากับคำอธิบายของจอยบอยได้ แม้จะดูเหมือนว่าเขาจะรู้ตัวว่า ไม่ใช่ตัวตนของเขาจริงๆ ไคโดยังพูดกับลูฟี่หลัง จากที่ลูฟี่ได้รับชัยชนะเหนือเขา “แกคงเป็นจอยบอยไม่ได้หรอก ดูเหมือน… ” อาจหมายความว่า เขาหวังว่าลูฟี่ จะเป็นคนที่เขาไม่ได้เป็นอีกต่อไป สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ว่าทำไมไคโด ถึงต้องการจบชีวิตของตัวเอง เนื่องจากความล้มเหลว ในการตอบสนองความคาดหวังของทั้งตัวเขา และคิง ที่ทำให้เขาหนักใจ
ซึ่งในตอนนี้ไคโดถูกสันนิษฐานว่า ได้ตายไปพร้อมกับบิ๊กมัม ทั้งคู่ถูกเล่าถึงว่า ตกลงไปในแอ่งลาวา และติดอยู่ในการระเบิดของภูเขาไฟ โดยปกตินี่จะหมายความว่าตัวละครทั้งสองตายแล้ว แม้ว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ตาม ความจริงที่ว่าร่างของทั้งสอง สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าลอยอยู่ในลาวา และเป็นที่ทราบกันดีว่า ไคโดมีผิวหนังและร่างกาย ที่แทบจะทะลุผ่านไม่ได้ หมายความว่ามีโอกาสที่ทั้งคู่ จะรอดชีวิตได้ แม้ว่าเป้าหมายของบิ๊กมัม อาจจะเหมือนกับเมื่อก่อนหากเป็นอย่างนั้น ไคโดและกลุ่มโจรสลัดอสูรของเขา ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ไคโดดูเหมือนจะหมกมุ่นอยู่กับจอยบอย นี่อาจเป็นสาเหตุที่ไคโดลงเอย ด้วยการเดินบนเส้นทางที่ชั่วร้าย หลังจากตระหนักว่าเขาไม่ใช่จอยบอย เขาก็ตัดสินใจที่จะไป และยึดครองที่เดียวที่เขารู้ว่าจอยบอยกำลังจะไป นั่นคือดินแดนวาโนะ จากนั้นเขาก็กลายเป็นวายร้าย “แอนตี้จอยบอย” ที่ยิ่งใหญ่มาก จนมีแต่จอยบอยตัวจริงเท่านั้น ที่จะมีโอกาสเอาชนะเขาได้ นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไม ในช่วงเวลาสุดท้ายของการต่อสู้กับลูฟี่ เขาต้องเผชิญกับการโจมตีครั้งสุดท้ายแบบตัวต่อตัว แทนที่จะเคลื่อนที่ไปรอบๆ เพื่อโจมตีอย่างเด็ดขาด เขาพุ่งเข้าใส่มันด้วยการโจมตีสุดท้ายของเขาเอง
เขายังถามถึงเหตุผลของการต่อสู้ของลูฟี่ และเมื่อลูฟี่ตอบว่า เขาต้องการทำให้ทุกคนมีความสุข และได้รับอาหารอย่างเต็มอิ่ม อย่างที่กล่าวไปแล้ว มันจะเป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจทีเดียว ถ้าไคโดออกติดตามจอยบอยตัวจริงเมื่อเขากลับมา แม้ว่าเขาไม่น่าจะเป็นสมาชิกคนต่อไป ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ ที่จะจินตนาการถึงเขาและกลุ่มโจรสลัดสัตว์ ในฐานะสมาชิกของกองเรือใหญ่หมวกฟาง
ทางด้านของผู้เขียนโอดะ ได้กล่าวว่าสงครามครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นความบังเอิญที่ไคโด ตั้งเป้าที่จะสร้างชื่อให้ตัวเอง แม้ว่าจะไม่มีอะไรมาบ่งชี้ว่าทฤษฎีนี้เป็นความจริง แต่ก็ค่อนข้างเป็นไปได้ที่ไคโด และทีมงานของเขา จะกลับมาด้วยความสามารถบางอย่าง ในขณะที่บางคนอาจคาดหวังว่า ไคโดอาจจะต้องการแก้แค้น และมีความเป็นไปได้ที่ไคโด จะกลับมาช่วยลูฟี่ และคำถามเหล่านี้ จะถูกเปิดเผยในไม่ช้า www.anime-nakama.com